วันอาทิตย์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

[ANAN] Leeteuk's Part

[ANAN] Leeteuk's Part

ลีดเดอร์ที่อาวุโสที่สุดที่พึ่งพิงได้ Leeteuk

「ไม่ว่าเมื่อไหรก็ตาม ก็ยังอยากจะลงเป็นผู้ประกาศข่าว」

เกิดวันที่ 1 กรกฎาคม 1983 MC รายการเพลงที่เก่งกาจ MC รายการวาไรตี้อย่าง Star King และรายการอื่นๆ We got married และ Strong Heart ด้วยความสามารถอันหลากหลายทำให้เป็นที่ดึงดูดของรายการวาไรตี้จำนวนมากเลยทีเดียว

คุณอีทึก ในฐานะที่เป็นลีดเดอร์ มีหน้าที่แสดงให้ถึงพลังที่รวมกัน(ของเหล่าเมมเบอร์) คาริสม่าแบบนี้ เปรียบได้กลับประธานาธิบดีเลยทีเดียว

「เมื่อก่อน ก็เคยคิดว่าอยากจะเป็นสมาชิกผู้แทนอยู่เหมือนกัน ด้วยเหตุผลง่ายที่ว่า เงินเดือนมันสูงน่ะครับ *หัวเราะ* แล้วก็เคยฝันอยากเป็นโปรแกรมเมอร์ กับ นักกีฬาเบสบอลอาชีพเหมือนกันนะ แต่ที่อยากเป็นมาตลอดคือ งานที่เกี่ยวกับวงการโทรทัศน์ 
บทบาทหน้าที่ใน SJ ของผมคือ “ศูนย์กลาง” ครับ ไม่ใช่แค่ใจกลางนะครับ แต่ต้องมีความรู้สึกเป็น “เป็นกลาง” อีกด้วย ตัวอย่างเช่น เวลาที่ความคิดเห็นของเมมเบอร์แบ่งกันเป็นครึ่งๆนั้น ก็จะต้องหาจุดลงตัวให้ได้ นั่นแหละบทบาทของผมครับ」
แล้วก็ยังมี ทางความสามารถทางด้าน MC ที่กำลังโดดเด่นเลยทีเดียว

「คงจะคิดว่าเป็นแบบนั้น แต่ที่จริงตอนก่อนเดบิวต์คิดไว้ว่าคงจะไม่ได้พูดมากนักหรอกครับ อยากจะเป็นคนในวงการบันเทิงก็จริง แต่คิดเพียงว่าแค่อยากเป็นนักร้องเท่านั้นแหละครับ แต่พอได้ลองทำต่างที่คิดไว้ดู คิดว่ามันก็ทำได้นี่นา... *หัวเราะ* ขอโทษนะครับ ตอนนี้ก็มีความสนใจเกี่ยวกับการเป็นผู้ประกาศข่าวน่ะครับ ที่ญี่ปุ่นนั้น พวกศิลปินก็สามารถไปออกรายการข่าวได้เหมือนกันสินะครับ ผมได้ยินแบบนี้มา ก็เลยอยากจะไปออกบ้างเหมือนกัน」

ตอนนี้ก็อายุ 29 แล้ว ก็ใกล้จะถึงวัยที่ควรจะคิดเกี่ยวกับเรื่องแต่งงานแล้วสินะ

「อืม.... ตอบตรงๆนะครับ เรื่องที่ควรจะแต่งงาน หรือสละโสดนั้น ผมก็กำลังคิดหนักอยู่เหมือนกันครับ ถ้าอายุ 50 แล้วยังโสดอยู่ ก็คงจะเหงาเหมือนกันนะ.... หลังจากนี้ซัก 8-9 ปี ถ้าหากว่าได้แต่งงานกับผู้หญิงที่มีจิตใจงดงาม และมีความรู้ก็คงดีเหมือนกันนะครับ ผมน่ะ ก็เคยคิดที่จะแต่งงานกับผู้หญิงที่สวยแบบในอุดมคติอยู่นะครับ แต่พอมาค่อยๆคิด คงจะดีกว่า ถ้าเป็นคนที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองแล้วก็ มีเสน่ห์ดึงดูดน่ะครับ หลังๆมานี้ก็เลยได้ความคิดใหม่」

คิดว่าสไตล์ความรักของคุณเป็นอย่างไร?

「ถ้าพูดดีๆก็เป็นแบบโรแมนติคน่ะครับ แต่ถ้าแบบไม่ดีก็เป็นพวกที่ยึดติดกับอดีตน่ะครับ มันเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยดีใช่มั้ยล่ะครับ “ผู้ชายเป็นสิ่งมีชีวิตที่กินความหลังเพื่อดำรงชีวิตอยู่ต่อไป” นั่นแหละผมเลย ตอนอัลบั้มที่ 4 นั้น เพลงที่ชื่อว่า “My All Is In You” ผมได้แต่งมันขึ้นมา แต่เพราะว่าเนื้อหาเพลงนั้น.. *หัวเราะ*」

Q : ตอนที่ต้องไปทำงานที่ต่างประเทศ สิ่งที่พกไปประจำคือ?
สมุดโน้ตเรียนภาษาญี่ปุ่นน่ะครับ ตอนนี้กำลังศึกษาตัวฮิรางานะอยู่ เพราะว่าเวลาที่ คนญี่ปุ่นพูดภาษาเกาหลีกับผม ผมดีใจมากๆเลยล่ะครับ ผมเลยคิดว่าถ้าผมพูดกับทุกคนด้วยภาษาญี่ปุ่นทุกคนก็คงจะดีใจเหมือนกันใช่มั้ยล่ะครับ ผมจะพยายามจำให้ได้เร็วๆ รอกันด้วยนะครับ

Q : ขอเพลงที่จะทำให้รู้สึกสดใสหน่อยครับ
ซิงเกิ้ลที่สาม OPERA กับ เพลงที่อยู่คู่กันคือ Way มีเนื้อหาเกี่ยวกับ ความปรารถนาดี และ สายสัมพันธ์ มันช่างสวยงามมากเลยล่ะครับ มันเป็นเพลงที่ทำให้กำลังใจกับผมเลยล่ะครับ เวลาอยู่ในรถผมก็ชอบฟังบ่อยนะครับ ลองฟังกันดูนะครับ!

Translated by : @jsnagelsm @ 13mkh

[Full Trans] ANAN interview - Sungmin

[Full Trans] ANAN interview - Sungmin

‘เมื่อไหร่ที่ผมเห็นเธอทำท่าซุ่มซ่าม ผมรู้สึกเหมือนอยากจะเข้าไปกอดเธอในทันที’


Q : ซองมิน คนที่เยียวยาผู้หญิงทั้งโลกด้วยใบหน้าที่น่ารักเหมือนลูกสุนัขตัวน้อยๆ และเสน่ห์ที่พิชิตไม่ได้รวมถึงความเป็นผู้ชายที่อบอุ่นจากข้างใน
A : “ในยิม ผมมักจะเลือกฟังเพลงที่ทำให้รู้สึกเหมือนมีจิตวิญญาณในการต่อสู้และดุดันเพื่อคอยให้กำลังใจตัวเอง เพราะการเพาะกายคือหาทางที่ผมจะต่อสู้กับตัวเอง”


Q : ดูเหมือนว่าในสมัยเด็กคุณมีความฝันที่จะเป็นนักแปลภาษาทั่วโลก
A : “แทนที่จะว่าเป็นความฝันของผม เปลี่ยนเป็นความฝันของพ่อกับแม่ดีกว่าครับ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะพอใจในชีวิตของตัวเองที่มีอยู่? ผมได้ตระหนักแล้วจริงๆ ว่าผมไม่ได้สนใจเกี่ยวกับเรื่องการเรียนเท่าไหร่เมื่อสมัยที่ผมเข้าไฮสคูล (หัวเราะ) ผมรักการเต้นการร้องเพลงมากกว่า เพราะฉะนั้นผมเลยตัดสินใจด้วยตัวเองว่าผมอยากจะเป็นนักร้อง”

Q : บอกเราได้ไหมถึงประสบการณ์ของคุณในฐานะนักแสดงก่อนที่จะมาเข้าร่วมกลุ่ม
A : “เสน่ห์ของการเป็นนักแสดงคือคุณต้องรู้ประเภทของคนและคาแรคเตอร์ของตัวละคร ผมอยากจะสานต่อกิจกรรมในฐานะนักแสดง และก็อยากที่จะได้ลองทำงานร่วมกับทีมงานของญี่ปุ่น ผมรักภาพยนตร์ญี่ปุ่นที่ชื่อ 'Udon (อุด้ง)' มากจริงๆ และผมก็รู้สึกว่ามันลึกซึ้งมากกับธีมที่เรียบง่ายในหนังเรื่องนั้น”

Q : บทบาทของคุณคือเป็นคนประหยัดค่าใช้จ่ายในซุปเปอร์ จูเนียร์
A : "จริงๆ แล้วผมจริงจังกับการอนุรักษพลังงานมากเลยครับ ผมเกลียดมากเวลาที่มีใครเปิดไฟ ฮีตเตอร์ หรือไม่ก็ทีวีทิ้งไว้ ฉะนั้นทุกครั้งที่เห็น ผมจะไปปิดมันโดยอัตโนมัติเลยล่ะ และเพราะเป็นแบบนั้น บิลค่าไฟในหอของพวกเราเมื่อเปรียบเทียบกับของคนอื่นมันลดครึ่งต่อครึ่งเลยที เดียว ผมเป็นคนที่มีเซนส์ในเรื่องเศรษฐศาสตร์น่ะครับ (หัวเราะ)"

Q : อย่างนั้นคุณก็มีความน่าไว้วางใจมากๆ ถ้าหากจะแต่งงาน
A : "จริงๆ แล้วผมมีความต้องการที่อยากจะแต่งงานมากๆ เลย ผมอดทนรอไม่ไหวที่จะเห็น 'ซองมินตัวน้อย' ที่เหมือนผม เขาต้องน่ารักมากๆ อยู่แล้วใช่ไหมล่ะ? ผมจะทำให้เขาเหมือนจมน้ำด้วยความรักของผมทั้งหมด และผมจะเป็นคุณพ่อที่สนับสนุนและบริการครอบครัวเป็นอย่างดี"

Q : เงื่อนไขของคนที่จะมาเป็นภรรยาของคุณล่ะ?
A : “ก็ ต้องเป็นคนที่ทำอาหารเป็นและมีความชอบในรสชาติที่คล้ายคลึงกับผม มันก็โอเคนะถ้าเธอจะไม่เพอร์เฟคในเรื่องการทำงานบ้าน และถ้าผมเห็นเธอซุ่มซ่าม เงอะงะแม้ว่าเธอจะทำดีที่สุดแล้ว ผมก็จะเข้าไปกอดเธอ ผมเป็นผู้ชายประเภทที่จะต้องปกป้องผู้หญิงเสมอน่ะครับ”

Q : เพลงของซุปเปอร์จูเนียร์ที่คุณรักมากที่สุด?
A : “'Believe' เป็นเพลงของวง Exile ที่พวกเราโคฟเวอร์กัน แต่เมโลดี้ดีมากๆ เลยล่ะครับ และฮีชอลก็เป็นคนที่เขียนเนื้อเพลงออกมาได้สวยงามมากๆ ที่สำคัญที่สุดคือผมได้ร้องพาร์ทสุดท้ายของเพลง นั่นแหละเป็นเหตุผลหลักที่ผมเลือกเพลงนี้ (หัวเราะ)”

Q : เปิดเผยความลับของสมาชิก!
A : “จริงๆ แล้วเรียวอุคเนี่ยเป็นคนที่เย็นชามากในเรื่องความรัก และเพราะเป็นแบบนั้นผมก็เลยตั้งชื่อให้กับเขาว่า 'Kim Binha' ถ้าเขียนด้วยตัวคันจิมันก็จะเป็น '金氷河’ ซึ่งหมายความว่าเป็นผู้ชายที่เหมือนกับภูเขาน้ำแข็ง”
|ตรงนี้ไม่แน่ใจว่าจะหมายถึง cool ที่แปลว่า เจ๋ง หรือที่แปลว่าเย็นชากันแน่ = =; เพราะงั้นแปลผิดก็ขอโทษด้วยเน้อ|



Trans by Malibu @suju_thailand , Eng Trans by : @syazureq

วันพฤหัสบดีที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

บทสัมภาษณ์ซองมินสามทหารเสือ

Q:  ‘The three Musketeers’ เป็นมิวสิกเคิลที่ต้องใช้ดาบเยอะเลย คุณออกกำลังหรือเล่นกีฬาได้ดีมั๊ย


ซองมิน: เพราะผมเล่นกีฬาแล้วก็ออกกำลังกายเมื่อตอนที่ผมยังเด็ก มันง่ายกว่าที่ผมคิดนะ ที่ผมเห็นว่ามันยากคือการจับดาบให้เคลื่อนไหว(พวกฉากต่อสู้)ไปกับนักแสดงที่แสดงคู่กับผม เนื่องจากว่าเราต้องการจะหลีกเลี่ยงการเกิดการบาดเจ็บ การจับดาบให้เคลื่อนไหวที่แต่ละคนต้องถือมันหลายๆครั้ง เพราะงั้นผมต้องเลยพูดคุยกันเยอะกับนักแสดงที่แสดงร่วมด้วย หลังจากนั้น เราก็เข้าใจ ถ้าสิ่งต่างๆนั้นดีหรือไม่ก็แค่ส่งสายตาให้ก็พอแล้ว


Q : ตอนที่ได้ฟังคุณตอบคำถาม เราก็สามารถบอกได้เลยว่าคุณสามารถเข้ากับคนอื่นๆได้ง่าย อันนี้เป็นตั้งแต่เด็กๆหรือว่าได้รับมาจากการที่ทำกิจกรรมในฐานสมาชิกของ Super Junior


ซองมิน : ผมคิดว่ามันเป็นบุคลิกส่วนตัวของผม ผมเป็นคนประเภทที่แบบว่าจะคิดว่าจะทำตัวต่อคนอื่นยังไงหรือจะทำยังไงให้คนอื่นๆมีความสุข  เหมือนกันกับในการแสดงกับนักแสดงคนอื่นๆ ผมมักจะแสดงตามนักแสดงคนอื่นทำ เปลี่ยนวิถีทางตามแบบที่ผมคิดในการแสดงขึ้นอยู่กับว่าผมเล่นกับใคร ผมสังเกตเพื่อนๆได้เก่งมากเลย


Q : อะไรคือความดึงดูดมากที่สุดของมิวสิกเคิล “The Three Musketeers”?


ซองมิน : ‘The Three Musketeers’ สนุกเหมือนละครตลกล่ะ มันเป็นการแสดงที่แม้แต่เด็กๆก็สามารถดูมันได้ พวกเขาจะได้รับความรู้สึกในด้านความยุติธรรม หรือแม้แต่ผู้ปกครองเองที่ได้ดู จะได้รำลึกถึงตอนที่ยังเป็นวัยรุ่นและคิดว่า ‘ฉันก็มีช่วงเวลาเหล่านี้เหมือกัน’ หรือบางทีก็พาพวกเขากลับไปสู่ความเป็นเด็กเหมือนเช่นตอนนี้  ในตอนจบของการแสดงนั้น จะมอบความรู้สึกอันอบอุ่นภายในใจ เรื่องราวที่พยายามที่จะแสดงให้เราเห็นถึงความยุติธรรมและความอบอุ่นในเวลาเดียวกัน



Q : นอกจากคำแนะนำของผู้กำกับแล้ว ในความเห็นของคุณ มีอะไรที่อยากจะเพิ่มเติมไปในตัว ดาตาญัง หรือว่ามันดีแล้ว?

ซองมิน: ผู้กำกับก็กำกับ ‘Jack the Ripper’ เขาไม่ได้ใช่คนที่บอกเราว่าต้องทำอะไร แต่เขาเป็นคนที่รวบรวมไอเดียของผมใส่ไปในตัว ดาตาญัง และสร้างคาแร็กเตอร์ร่วมกัน  แสดงด้านที่ซุกซนของ ดาตาญัง แต่สำหรับผม ผมไม่อยากแสดงเป็นแบบๆเด็กเหมือน ดาตาญัง ผมอยากจะแสดงให้เป็นอัศวินในสวมชุดที่เป็นประกายที่จริงจังกับกฎหมายและโกรธง่าย ซึ่งในระหว่างนั้นผมก็ได้ดู Three Musketeers ผมอยากจะเป็นกำลังใจให้กับ ดาตาญัง


Q: ครั้งแรกที่คุณเริ่มแสดงมิวสิกเคิลจนถึงตอนนี้ มีส่วนไหนที่คุณรู้สึกว่ามันเปลี่ยนไปอย่างมากเลย?

ซองมิน: ผมเริ่มจะเป็นผู้ใหญ่มากกว่าในครั้งแรก ที่ผมแสดงมิวสิกเคิล ตอนนี้ผมมีแนวทางในการใช้เสียงของผมแสดงในมิวสิกเคิลแล้ว ในตอนแรกที่ผมได้ทำสิ่งที่ท้าทายที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการแสดงมิวสิกเคิล ผมคิดคร่าวๆว่า ‘มันจะต้องดีแน่ๆ ถ้าได้ทำ’ แต่ถ้าคิดเรื่องนี้ ในตอนนี้ ผมจะคิดว่า ‘ทำไมไม่ทำให้มากกว่านี้ล่ะ’ มันเป็นความรู้สึกที่เหมือนกับว่าผมต้องการที่จะพัฒนาและได้ให้รางวัลกับตัวเอง ผมอยากจะแสดงมิวสิกเคิลให้มากกว่านี้ในอนาคต ผมเริ่มจะเข้าใจความสามารถให้การร้องเพลงและแสดงได้ลึกซึ้งมากกว่าแต่ก่อน


Q: นอกจากคำแนะนำทั้งหมด คุณได้รับมาจนถึงทุกวันนี้จากรุ่นพี่ของคุณในมิวสิกเคิล อะไรคือสิ่งสำคัญที่สุด?

ซองมิน : ตั้งแต่ผมทำการแสดงคอนเสริต์มามาก ผมมักจะดูแถวอยู่บ่อยๆ แต่รุ่นพี่แนะนำผมว่า เคลื่อนไหวไปตามใจของนายมากกว่าไปตามเส้นตามแถวที่มีไว้แล้ว มันไม่สำคัญว่าจะต้องตามแถวเสมอ ถ้านายเคลื่อนที่ไปแบบปกติมันจะไม่มีปัญหา ไม่จำเป็นต้องไปยึดตามไลน์ของนักแสดงที่แสดงร่วม’ พอผมได้นยินคำแนะนำนี้ ในความรู้สึกของผมก็เริ่มผ่อนคลายขึ้นเมื่ออยู่บนเวที






Q : ในบรรดาสมาชิก Super Junior  สมาชิกคนไหนที่คิดว่าเหมาะกับคาแร็กเตอร์ของ Three Musketeers?

ซองมิน: เอธอส  มีภาพลักษณ์ที่ลักษณะผิวจะคล้ำและก็สูงด้วย และเขาก็เก่งในด้านกีฬาและออกกำลังกาย ผมคิดว่าซีวอนเหมาะกับบทของเอธอส มากที่สุด คยูฮยอนเหมาะกับบทของอารามิส มากกว่า ดาตาญัง คยูฮยอนเป็นคนที่ดูเป็นกันเองกับผู้หญิง ผมคิดว่าเขาเหมาะกับบท อารามิส มากที่สุด  แล้วอีกอย่าง อารามิส เป็นนักร้องเพลงโอเปร่า ในการแสดง เขาต้องร้องเพลงได้ดีมากๆ เพราะงั้นก็คิดว่าคยูฮยอนจะเป็นอารามิส ที่เจ๋งแน่ๆ ส่วนชินดงก็เป็น ปอร์ธอส ได้สมบรูณ์แบบ


Q : เหตุผลอะไรที่ทำให้คุณคิดว่า ทำไม  Super Junior ถึงได้รับความรักคนทั่วโลก? 

ซองมิน : เมื่อเร็วๆนี้ ยูทูปกลายเป็นแหล่งที่โปรโมต(วิดีโอของเอสเจ)  ยูทูปแทคแคร์พวกเราได้ดีมากจริงๆ สมาชิกของ Super Junior เป็นคนใจดีแต่ขี้เล่น ดูความปั่นป่วนของ Super Junior ผ่านทางวิดีโอของยูทูป และสนุกไปด้วยกัน คุณก็จะรู้สึกมีความสนุกใช่มั๊ยล่ะ  แฟนๆชาวต่างชาติจะมีความสุขไปพร้อมๆกับพวกเรา ขณะที่พวกเขากำลังดูไวรัสแห่งความสุขที่ส่งให้จากสมาชิก 



translated by rei066
source: news.kstyle.com
แปลไทย @Kokorosuju

...อ้างอิง http://sz4m.com/b3863514

อีทึกเขียนจดหมายด้วยลายมือให้แฟนๆและสมาชิก

อีทึกเขียนจดหมายด้วยลายมือให้แฟนๆและสมาชิก

“ถึง ‘E.L.F’ ที่ผมคิดถึงและเป็นห่วงที่สุด เพราะผมรักพวกเขา ทุกๆวันที่ยากลำบาก,ผมอ่านจดหมายทีละฉบับที่พวกคุณส่งมาให้ผม
มันทำให้ผมซาบซึ้งและมีน้ำตา ทำให้ผมเข้มแข็งที่จะเผชิญหน้ากับแต่ละวันโดยไม่ยอมแพ้ ผมขอขอบคุณทุกคนจากใจครับ
มันดูเป็นระยะเวลาที่ยาวนานมากๆ ตั้งแต่ที่ผมได้ทักทายพวกคุณเมื่อปี1ที่ผ่านมา
ผมเฝ้านับเวลารอวันเวลาที่เหลืออีก 8 เดือนที่ผมจะใช้เวลาในกองทัพโดยการกาเครื่องหมาย X บนปฎิทิน
ดังนั้น ผมก็เลยเฝ้ารอเวลาที่จะได้เจอพวกคุณอีกครั้งอย่างสดใสและใช้เวลานั้นอย่างมีความสุข

ตอนนี้ก็เดบิวต์มาได้ 8 ปีแล้ว ผมคิดว่าผมยิ่งรู้สึกเศร้าเมื่อในวันนี้ผมไม่สามารถอยู่กับคนที่ผมรักได้ และแฟนๆของเราที่ก้าวไปกับพวกเค้า
ก็มอบความรักที่ไม่มีสิ้นสุด…ให้พวกเรา ผมอยากจะบอกว่า “ขอบคุณเสมอมานะครับ และรักพวกคุณนะครับ”2014และ 29 กรกฎาคมใกล้เข้ามา
ผมหลับไปโดยที่คิดถึงวันนั้นและจินตนการถึงมันทุกคืน และเตรียมตัวสำหรับการฉลอง 9 ปีของเราในปีหน้า ขอบคุณอีกครั้งที่สนับสนุนผม
ผมก็จะไม่ยอมแพ้ แค่จะใช้ชีวิตและอทนต่อไปเรื่อยๆผมจะอฐิษฐานว่าตั้งแต่นี้เป็นต้นไปเราจะใช้ชีวิตอย่างสวยงาม เป็นหนึ่งเดียว
ไม่ใช่แค่เฉพาะตอนนี้แต่จะเป็นตลอดไป ผมขอมอบความรักของผมให้อย่างจริงใจครับ”


ป.ล. Super Junior ด้วย!! E.L.F ด้วย!! 8ปี!! ขอแสดงความยินดีด้วยที่มาถึง 8 ปี ถ้าหากมันคือ 8 ปี นั่นคือช่วงอายุที่คุณจะไปโรงเรียน ทุกๆคนแก่ขึ้นแล้วสิ??!!! อิอิ ^__^

หัวหน้าวง Super Junior!! Leeteuk ผู้ที่รัก E.L.F มากที่สุด”

ส่วนที่ด้านหลังของกระดาษ เขาเขียนข้อความไว้ว่า

“แม้หากท้องนภาจะร่วงหล่นและพื้นดินจะแตกสลายไม่มีสิ่งใดจะต้องกลัวถ้าหากว่าคุณบอกรักฉัน
แม้ความมืดมิดมารวมตัวและโลกจะหมุนย้อนวัน
มันไม่มีอะไรสำคัญตราบเท่าที่คุณบอกรักฉัน
ถ้าหากคุณต้องการ ฉันจะตามคุณไปจนสุดปลายโลก
ไม่ว่ามันจะเป็นดวงดาวหรือดวงอาทิตย์แสงจรัสบนท้องฟ้า ฉันจะเก็บมันมาและมอบให้กับคุณ
ถ้าหากคุณต้องการ ฉันจะทิ้งทุกอย่างที่ฉันมีอยู่, ที่รัก
แม้หากทุกคนหัวเราะเยาะเรา ฉันก็จะตามไปเพียงแต่คุณ
แม้หากพระเจ้าแห่งโชคชะตาพาตัวคุณไป
ฉันก็จะตามไปแม้จะตลอดกาล ถ้าหากว่าคุณรักฉัน

เพลงแห่งรัก”

kpop-th.com/wp-content/uploads/2013/11/Leeteuk_1385573505_20131127_Leeteuk1.jpg

kpop-th.com/wp-content/uploads/2013/11/Leeteuk_1385573505_20131127_Leeteuk2.jpg

Cr. A-STAR & K-pop th